จิตอาสาในชุมชนตลิ่งชัน รวมตัวกันในท้องถิ่น เพื่อขยายความช่วยเหลือในวงกว้างแก่ผู้เคราะห์ร้าย ผู้ประสบภัยจากอัคคีภัยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งล่าสุด ที่ชุมชนตั้งอยู่ด้านหลังของวัดกาญจนสิงหาสน์วรวิหาร (วัดทอง) จึงตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนของผู้ที่ได้รับผลกระทบ บุคคลจิตอาสาและองค์กรต่างๆ จึงพร้อมใจกันให้ความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการบริจาคและความช่วยเหลือในทางปฏิบัติ
ความพยายามร่วมกันของชุมชนได้ทำให้มั่นใจได้ว่า ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของผู้มีจิตเมตตา กรุณา จึงได้จัดเตรียม ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นเช่นอาหารแห้งเครื่องนุ่งห่มที่นอนตลอดจนเสื้อผ้า เพื่อบรรเทาทุกข์ร้อนสำหรับผู้ที่ต้องพลัดถิ่นจากเหตุร้ายดังกล่าว
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อตระหนักถึงภาระทางการเงินที่ผู้ประสบภัยต้องเผชิญ ผู้นำในท้องถิ่น นำโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายสิริน สงวนสิน ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ สถานีตำรวจตลิ่งชัน (กต.ตร.), ดร.สมนึก สงวนสิน ประธานที่ปรึกษากลุ่ม HEIDIZ THAILAND, คุณภูริวัจน์ เชี่ยววิทย์ ประธาน กต.ตร., คุณธีร หวังดำรงเวศ ประธานกรรมการบริหารบริษัทปิ่นเกล้าฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด, ดร.ศศมณฑ์ สงวนสิน และ ผกก.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.อ.มนต์ชัย อรุณส่องแสงดี ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่างๆ และบริจาคเงินให้กับครอบครัวที่ได้รับผลกระทบในการสร้างชีวิตใหม่ของพวกเขา ความมุ่งมั่นของชุมชนในการสนับสนุนซึ่งกันและกันนั้นสร้างแรงบันดาลใจของจิตอาสาอย่างแท้จริง
ในการนี้ประธานชุมชนวัดกาญจนสิงหาสน์วรวิหาร คุณพงศ์ณัทสิทธิ์ ศิริโคตร และ ตัวแทนผู้ประสบอัคคีภัย คุณสุพจน์ อรทัย เป็นผู้รับมอบเงินสดและเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่างๆ
อาสาสมัครจิตอาสา ยังมีบทบาทสำคัญในการประสานงานบรรเทาทุกข์ ตั้งแต่การแจกจ่ายสิ่งของจำเป็นพื้นฐานไปจนถึงการให้กำลังใจทางอารมณ์ บุคคลที่อุทิศตนเหล่านี้ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ประสบภัยจะได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วทันการในช่วงเวลาเช่นนี้
การสนับสนุน ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของชุมชนและความยืดหยุ่นในการเผชิญกับความทุกข์ยาก เป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้เห็นความพยายามร่วมกันของบุคคล ธุรกิจ และองค์กรที่รวมตัวกันเพื่อสร้างความแตกต่างในเชิงบวก ด้วยการยื่นมือช่วยเหลือชุมชนไม่เพียงแต่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการฟื้นตัวเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงพลังแห่งความสามัคคีของคนไทยอีกด้วย
จิตอาสาในชุมชนตลิ่งชัน รวมตัวกันในท้องถิ่น เพื่อขยายความช่วยเหลือในวงกว้างแก่ผู้เคราะห์ร้าย ผู้ประสบภัยจากอัคคีภัยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งล่าสุด ที่ชุมชนตั้งอยู่ด้านหลังของวัดกาญจนสิงหาสน์วรวิหาร (วัดทอง) จึงตระหนักถึงความจำเป็นเร่งด่วนของผู้ที่ได้รับผลกระทบ บุคคลจิตอาสาและองค์กรต่างๆ จึงพร้อมใจกันให้ความช่วยเหลือในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการบริจาคและความช่วยเหลือในทางปฏิบัติ
ความพยายามร่วมกันของชุมชนได้ทำให้มั่นใจได้ว่า ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของผู้มีจิตเมตตา กรุณา จึงได้จัดเตรียม ข้าวของเครื่องใช้ที่จำเป็นเช่นอาหารแห้งเครื่องนุ่งห่มที่นอนตลอดจนเสื้อผ้า เพื่อบรรเทาทุกข์ร้อนสำหรับผู้ที่ต้องพลัดถิ่นจากเหตุร้ายดังกล่าว
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อตระหนักถึงภาระทางการเงินที่ผู้ประสบภัยต้องเผชิญ ผู้นำในท้องถิ่น นำโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายสิริน สงวนสิน ประธานที่ปรึกษาคณะกรรมการตรวจสอบและติดตามการบริหารงานตำรวจ สถานีตำรวจตลิ่งชัน (กต.ตร.), ดร.สมนึก สงวนสิน ประธานที่ปรึกษากลุ่ม HEIDIZ THAILAND, คุณภูริวัจน์ เชี่ยววิทย์ ประธาน กต.ตร., คุณธีร หวังดำรงเวศ ประธานกรรมการบริหารบริษัทปิ่นเกล้าฮอนด้าคาร์ส์ จำกัด, ดร.ศศมณฑ์ สงวนสิน และ ผกก.สน.ตลิ่งชัน พ.ต.อ.มนต์ชัย อรุณส่องแสงดี ได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือมอบสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นต่างๆ และบริจาคเงินให้กับครอบครัวที่ได้รับผลกระทบในการสร้างชีวิตใหม่ของพวกเขา ความมุ่งมั่นของชุมชนในการสนับสนุนซึ่งกันและกันนั้นสร้างแรงบันดาลใจของจิตอาสาอย่างแท้จริง
ในการนี้ประธานชุมชนวัดกาญจนสิงหาสน์วรวิหาร คุณพงศ์ณัทสิทธิ์ ศิริโคตร และ ตัวแทนผู้ประสบอัคคีภัย คุณสุพจน์ อรทัย เป็นผู้รับมอบเงินสดและเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่างๆ
อาสาสมัครจิตอาสา ยังมีบทบาทสำคัญในการประสานงานบรรเทาทุกข์ ตั้งแต่การแจกจ่ายสิ่งของจำเป็นพื้นฐานไปจนถึงการให้กำลังใจทางอารมณ์ บุคคลที่อุทิศตนเหล่านี้ทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยเพื่อให้มั่นใจว่าผู้ประสบภัยจะได้รับความช่วยเหลืออย่างรวดเร็วทันการในช่วงเวลาเช่นนี้
การสนับสนุน ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นถึงสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของชุมชนและความยืดหยุ่นในการเผชิญกับความทุกข์ยาก เป็นเรื่องน่ายินดีที่ได้เห็นความพยายามร่วมกันของบุคคล ธุรกิจ และองค์กรที่รวมตัวกันเพื่อสร้างความแตกต่างในเชิงบวก ด้วยการยื่นมือช่วยเหลือชุมชนไม่เพียงแต่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในการฟื้นตัวเท่านั้น แต่ยังแสดงถึงพลังแห่งความสามัคคีของคนไทยอีกด้วย